วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2554

แบบฝึกหัด

แบบฝึกหัด บทที่ 1
1. ข้อใดไม่ถูกต้อง
ตอบ ค.มนุษย์ไม่ต่างจากสัตว์ในแง่ของอารมณ์และความรู้สึกทางธรรมชาติ

2. การที่สังคมมีความซับซ้อนและมีความเจริญทางวัตถุเกิดจากปัจจัยสำคัญข้อใด
ตอบ ง.สัญชาตญาณ

3. ข้อใดถูกต้องที่สุดเมื่อกล่าวถึงการศึกษางานศิลปะสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในโลกตะวันตก
ตอบ ง.ภาพเขียนสีถ้ำลาสโคซ์

4. คำว่ามนุษย์ถนัดในการใช้มือตรงกับข้อใดมากที่สุด
ตอบ ก.โฮโมฮาบิลิส

5. ข้อใดเป็นมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์กลุ่มหนึ่งในยุโรปซึ่งทิ้งผลงานศิลปะไว้มากมายในถ้ำต่างๆ
ตอบ ข.โครมันยอง

6. ข้อใด มิใช่ แหล่งโบราณคดีซึ่งพบหลักฐานภาพเขียนสีสมัยหินเก่าอายุประมาณ 30,000 – 25,000 BC.ในยุโรป
ตอบ ค.โอลดูเวย์

7. ข้อใดเป็นศิลปะถ้ำซึ่งพบโดยบังเอิญจากการเล่นซุกซนของเด็กสองคนเมื่อค.ศ.1940
ตอบ ข. ลาสโคซ์

8. ภาพเขียนสีในถ้ำอะไรมักถูกยกเป็นตัวอย่างของจิตรกรรมสมัยก่อนประวัติศาสตร์เสมอ
ตอบ ก. อัลตามีรา

9. ข้อใดไม่ถูกต้อง
ตอบ ง. งานประติมากรรมรูปคนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ มักมีขนาดใหญ่

10. Menhir or Standing Stone เป็นอนุสาวรีย์หินแบบใด
ตอบ ข. หินตั้งเดี่ยว
  
    

แบบฝึกหัด บทที่ 2
1. พื้นฐานดั้งเดิมก่อนเกิดอารยธรรมตะวันตกก่อนตัวขึ้นเมื่อใด
ตอบ ก. ประมาณ 4,000 BC.

2. ภูมิภาคแถบเอเชียไมเนอร์เป็นแหล่งกำเนิดของอารยธรรมโบราณในข้อใด
ตอบ ก. เมโสโปเตเมีย

3. แม่น้ำไทกริส-ยูเฟรตีสพัดดินตะกอนมาท่วมสองฝั่งภาคใต้ดินแดนเมโสโปเตเมียในฤดูใบไม้ผลิระหว่างเดือน......................ทำให้ภาคใต้เป็นดินแดนที่ราบลุ่มชายฝั่งทะเลอุดมด้วยปุ๋ยธรรมชาติเหมาะต่อการเพาะปลูกพืชพรรณธัญญาหารต่างๆ ข้อใดถูกต้อง
ตอบ ข. มีนาคม พฤษภาคม

4. พื้นที่ภาคเหนือของดินแดนเมโสโปเตเมียมีฝนตกชุกเมื่อใด
ตอบ ง. ฤดูใบไม้ผลิ

5. ข้อใดเป็นชนชาติเก่าแก่ที่ริเริ่มสร้างสรรค์อารยธรรมเมโสโปเตเมียขึ้นมา
ตอบ ก. ชาวสุเมอเรียน

6. ข้อใดเป็นปัจจัยที่ทำให้ชาวเมโสโปเตเมียมองโลกในแง่ร้ายและไม่เห็นคุณค่าของชีวิต
ตอบ ค. เห็นตนเองเป็นทาสที่เกิดมาเพื่อรับใช้พระเจ้า

7. ชาวสุเมเรียนไม่นิยมสร้างพระราชวังขนาดใหญ่ แต่นิยมสร้างซิกเกอแรท (Ziggurats) ศาสนสถานขนาดใหญ่กลางเมืองเป็นที่ประทับของเทพเจ้า ลักษณะคล้ายภูเขาห้อมล้อมด้วยกำแพงเมืองและบ้านเรือนประชาชน สร้างจากวัสดุประเภทใด
ตอบ ก. อิฐตากแห้ง

8. ข้อใดเป็นการปกครองในระยะแรกของอาณาจักรสุเมอเรียน
ตอบ ง. สภาของผู้ชายที่บรรลุนิติภาวะ


9. ข้อใดเป็นอักษรที่เกิดจากการใช้ไม้เขียนลงบนแผ่นดินเหนียวแล้วผึ่ง หรืออบให้แห้ง
ตอบ ก.คูนิฟอร์ม

10. ข้อใดเป็นชื่อของผู้ก่อนตั้งอาณาจักรบาบิโลเนีย
ตอบ ก.ฮัมบูราบี

11. “พวก Canaaites” เป็นคำเรียกชนชาติในข้อใด
ตอบ ก. ชาวฟินิเชียน

12. หลังจากถูกรุกรานโดยชาวยิวและชาวฟิลิสไตน์เมื่อประมาณ 1,300-1,000 BC. ดินแดนของชาวคะนาอันไนต์จึงเหลือเพียง ฟินิเชียนซึ่งตั้งอยู่บนชายฝั่งแคบๆ ของทะเลอะไร
ตอบ ก. ทะเลเมดิเตอเรเนียน

13. ในปี750BC.ชนชาติใดได้เข้ามายึดครองดินแดนของชาวฟินิเชียนจนเกือบหมดเหลือเพียงอาณานิคมที่เมืองคาร์เธจเท่านั้น
ตอบ ก. ชาวแอสซิเรียน

14. ข้อใดเป็นต้นตระกูลของอักษรที่ชาวยุโรปใช้อยู่ในปัจจุบัน
ตอบ ค.อักษรฟินิเชียน

15. ชาวฮิบรูเป็นชนเผ่าเร่รอนในทะเลทรายเมื่อ 1,400 BC. มีMoses เป็นผู้นำสำคัญในการปลดแอกจากการเป็นทาสของชนชาติใด
ตอบ ข. อียิปต์

16. ข้อใดเป็นผู้ก่อตั้งอาณาจักรอิสราเอลเมื่อประมาณ1,013-973 BC.
ตอบ ก. พระเจ้าเดวิด

17. อาณาจักรอิสราเอลถูกทำลายโดยชนชาติใด
ตอบ ง. ชาวแอสซิเรียน

18. เหตุการณ์ที่เรียกกว่า The Babylonian Captivity เกี่ยวข้องกับชนชาติใด
ตอบ ข.ชาวฮิบรู

19. ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับศสาสนายูดาย
ตอบ ข. นับถือพระยะโฮวา

20. ผู้สถาปนาอาณาจักรเปอร์เซียเมื่อปี 549 BC. คือใคร
ตอบ ง. พระเจ้าไซรัส


  
แบบฝึกหัด บทที่ 3
1. มหากาพย์อีเลียดและโอเดสซีเป็นของอารยธรรมกรีกยุคใด
ตอบ ก. ยุคมืด

2. วิหารพาร์เธนอน (Parthenon) สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานรูปเคารพของเทพองค์ใด
ตอบ ข. อะเธนา

3. หัวเสาทำเป็นรูปใบไม้ตรงกับข้อใด
ตอบ ค. หัวเสาแบบโครินเธียน

4. ความนิยมในการสร้างประติมากรรมหญิงเปลือยแทนรูปชายเปลือยเกิดขึ้นยุคใด
ตอบ ง. ยุคเฮเลนิสตติก

5. จิตรกรรมกรีกสมัยแรกมักทำ Back ground เป็นสีอะไร
ตอบ ข. สีแดง

6. ลักษณะงานจิตรกรรมที่นิยมวาดสีพื้นตัดกับภาพในฉาก แล้วพัฒนาเป็นรูปเครือเถา และรูปเล่าเรื่องนิทานปรัมปรา (Methology) และมหากาพย์ของโฮเมอร์อย่างกลมกลืนงดงามเกิดขึ้นยุดใด
ตอบ ค. ยุคคลาสสิค

7. การแสดงละครแพร่หลายมากในยุดใด
ตอบ ค. ยุคคลาสสิค


8. ข้อใดถูกต้องเมื่อกล่าวถึงละครแบบโศกนาฏกรรม (Tragedy) และสุขนาฏกรรม (Comedy)
ตอบ ก. ตัวละครชายทั้งหมด

9. นักปรัชญากรีกที่ก่อตั้งสำนักอะคาเดมีขึ้นที่เอเธนส์คือใคร
ตอบ ข. เพลโต

10. นักปรัชญาที่เชื่อว่าปัญญานำมาซึ่งความรู้ และความรู้นำมาซึ่งความสุขสบาย ถ้าปราศจากความสุขสบายมนุษย์จะไม่เกิดปัญญา คือใคร
ตอบ ค. อริสโตเติล

11. เทพองค์ใด มิใช่ พี่น้องของมหาเทพซูส
ตอบ ค. อะธีน่า

12. อาวุธของมหาเทพซูส คืออะไร
ตอบ ค. สายฟ้า

13. เทพที่มักปรากฏภายในลักษณะสวมหมวกขอบกว้างสวมรองเท้ามีปีกถือคทาที่มีงูพันคือใคร
ตอบ ค. เฮอร์มีส

14. เทพีแห่งการครองเรือนและเทพแห่งครอบครัว คือใคร
ตอบ ค. เฮสเทีย

15. เทพีแห่งสงคราม ความเฉลียวฉลาด และศิลปะศาสตร์
ตอบ ข. อะธีน่า

16. เป็นชนวนเหตุของสงครามกรุงทรอยคือใคร
ตอบ ง.อะโพรไดตี


  
แบบฝึกหัด บทที่ 4
1. การปกครองในข้อใดทำให้เกิดจักรวรรดิไบแซนไทน์ (Byzantine Empire)
ตอบ ค. การปกครองแบบ Tretarchy

2. หลังจากเกิดจักรวรรดิไบแซนไทน์ ข้อใดเป็นรูปแบบการปกครองของจักรวรรดิดังกล่าว
ตอบ ก. การปกครองแบบ Autocrat

3. “โรมใหม่หมายถึงข้อใด
ตอบ ค. คอนสแตนติโนเปิล

4. ข้อใด มิใช่ พื้นที่ของจักรวรรดิโรมันตะวันออกในคริสต์ศตวรรษที่ 7
ตอบ ค. คาบสมุทรไอบีเรีย

5. ข้อใดเป็นการปกครองที่จักรพรรดิทรงมีอำนาจสูงสุดทั้งทางจักรวรรดิและทางศาสนา
ตอบ ก. การปกครองแบบ Autocrat

6. จักรวรรดิโรมันตะวันออกใช้ภาษาอะไรในการสื่อสารอย่างเป็นทางการ
ตอบ ก. ภาษากรีก

7. คริสต์ศาสนาแบบ Christian Hellenism มีศูนย์กลางที่ใด
ตอบ ง. กรุงคอนสแตนติโนเปิล

8. ข้อใด ไม่ ถูกต้องเกี่ยวกับการแพร่หลายของศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์
ตอบ ง. ยุโรปตะวันตก

9. ข้อใด มิใช่ เมืองสำคัญทางศาสนาคริสต์ที่จักรพรรดิคอนสแตนตินทรงจัดไว้เมื่อ ค.ศ. 325
ตอบ ก. เอเธนส์

10. ข้อใดไม่ ถูกต้อง
ตอบ ง. Novels คือ นิยายเรื่องยาว

  

แบบฝึกหัดบทที่ 5
1.ยุคกลาง (The Middle Age) หมายถึงยุคซึ่งอยู่ระหว่าง ความเจริญของโลกคลาสสิกกับความรุ่งเรืองของ
ยุโรปสมัยใหม่

2.ศิลปะในสมัยยุคกลางตอนต้น (Early Middle Age) เรียกว่า เป็นยุคแห่งความสำเร็จพวกนอร์ธแมน เป็นยุคแรกของสังคมศักดินา

3.ยุคกลางตอนปลาย (Lately Middle Age Art) เป็นยุคเสื่อมของ สถาบันศาสนาและระบบศักดินา

4.ระบอบศักดินา ( Feudalism) หมายถึง ระบบการปกครองและโครงสร้างทางสังคมที่เน้นความสำคัญของกรรมสิทธิ์ที่ดิน

5.ยุคกลางสิ้นสุดลงเมื่อ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส

6.Benefice ในสมัยกลาง หมายถึง จารีตการยกที่ดินของวัดให้เอกชนเช่า โดยรับค่าตอบแทน คือ แรงงานและการเป็นทหารหรือยกผลผลิตให้แก่วัด

7.Lord หมายถึง ขุนนางขั้นสูงซึ่งได้รับพราราชทานกรรมสิทธิ์ที่ดิน

8.พวก Crofter and Cotters ในสมัยกลาง หมายถึง คนที่มีสถานภาพทางสังคมต่ำกว่าทาสติดที่ดิน เพราะไม่มีที่ดินทำกิน

9.อำนาจของชนเผ่าเยอรมันมาจาก การใช้คมหอก สันปลายแคบและเครื่องมือเหล็ก

10.ชาวคริสต์เชื่อว่ากรุงโรมเป็นสถานที่ศักดิ์เพราะ เป็นที่ฝังร่างของนักบุญปีเตอร์ สาวกของพระเยซู

11.วิหารพระเจ้าชาเลอมาญ ( King Chalemagn) ตั้งอยู่ที่เมือง อาเดน ประเทศเยอรมันนี

12.โบสถ์ All Saint Church ที่นอร์แธมตันไซร์ (Northamshire) ประเทศอังกฤษ เป็นโบสถ์แบบ
แองโกล แซกซอน

13.สถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ (Romanesque) มีลักษณะเด่น คือ มีประตูหน้าต่างโค้งกลม กำแพงหนา กระเบื้องปูพื้นขนาดใหญ่ บานหน้าต่างเล็กและเรียวยาว

14.มหาวิหารดูแรห์ม (Dohram) มีลักษณะเด่น คือ การนำซุ้มโค้งแบบไชว้มาใช้เป็นครั้งแรก

15.จุดเด่นของสถาปัยกรรมกอธิก (Gothic) คือ การใช้เสาค้ำยันจากภายนอกและการใช้เสาหิน

16.ใครเป็นผู้เขียนวรรณกรรมเรื่อง The City of God นักบุญ Augustin

17.มหากาพย์เรื่อง Chanson de Roland สะท้อนให้เห็นคุณธรรมด้าน ความกล้าหาญ อุดมการณ์ จริยธรรม ความเสียสละและศรัทธาในศาสนาคริสต์

18.นิยายเพ้อฝันสมัยกลางเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ความรักเกี่ยวกับหนุ่มสาว ความจงรักภักดีของ Vassal ที่มีต่อ Lord เวทมนต์คาถา และเรื่องลี้ลับมหัศจรรย์ นิยมกันมาก คือ สงครามโทรจันสมัยกรีก อเล็กซานเดอร์มหาราช กษัตริย์อาร์เธอร์

19.The Idea of Chivalry หมายถึง การแสวงหาความรัก เทิดทูนบูชาต่อสตรีสูงศักดิ์

20.Canterberry Tales คือ นิยายเสียดสีสังคมที่มีชื่อเสียง เป็นเรื่องของการเดินทางจาริกแสวงบุญ



แบบฝึกหัดบทที่ 6

ตอนที่ 1 จงทำเครื่องหมายถูกหน้าข้อที่ถูกและเครื่องหมายกากบาทหน้าข้อที่ผิด
1. ศูนย์กลางของศิลปะเรอแนสซองส์สมัยแรก (Early Renaissance) เกิดที่กรุงโรม
2. พ่อค้าสมัยเรอแนสซองส์ (Renaissance) พยายามเลียนแบบวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของขุงนางสมัยกลาง เช่น การอุปถัมภ์การสร้างงานของศิลปิน
3. ศิลปะสมัยเรอแนสซองส์ (Renaissance) นิยมความสวยงามตามแบบอย่างจารีตสมัยกลาง
4. นักปรัชญามนุษยนิยมสนใจศึกษาเรื่องราวและหลักธรรมทางศาสนา
5. ตระกูลเมดิซี (Medici) เป็นผู้อุปถัมภ์ศิลปินที่เมืองฟอรเรนซ์ (Florence)



ตอนที่ 2  จงจับคู่ให้ถูกต้อง

ก. สถาปัตยกรรมสมัยรอคโคโค (Rococo)
ข. ฟราโกนาร์ด (Fragonard)
ค. เบอร์นินี (Bernini)
ฆ . ประติมากรรมสมัยบารอค (Baroque)
ง. สถาปัตยกรรมสมัยบารอค (Baroque)
จ. บารอค (Baroque)
ฉ. เรมบรานท์ (Rembrandt)
ช. ชิมอนี (Chimoni)
ซ. รอคโคโค (Rococo)
ฌ. จิตรกรรมสมัยรอคโคโค
ญ. คาราวัคโจ (Caravaggio)

ตอบ
. 1. การซื้อขายตำแหน่งทางศาสนาและใบไถ่บาป
. 2. ลักษณะที่ผิดเพี้ยนไปจากระเบียบแบบแผนดั้งเดิม
. 3. จิตรกรรมชื่อ Calling of Mathew
. 4. ริเริ่มจัดภาพแบบกระจายซ่อนภาพรางๆไว้ในความมืด ให้แสงจ้าเป็นจุดๆ
. 5. แสดงท่าโลดโผนคล้ายแสดงละคร แต่งกายหรูหราทำผ้าจีบเป็นมุมเกินจริง
. 6. ประติมากรรมเดวิด
. 7. มีโครงสร้างละเอียดซับซ้อน แลดูพร่างพรายจากการเน้นแสงสว่างในอาคารเป็นจุดๆ
. 8. มีโครงสร้างเป็นเส้นโค้งอ่อนหวานเน้นรายเอียดที่วิจิตรพิสดาร
. 9. เน้นให้เกิดความเคลิบเคลิ้มในบรรยากาศมากกว่าการรับรู้ความจริง
. 10. จิตรกรรมชื่อ การนัดพบของคู่รัก



คำถามท้ายบทที่ 7


1 ศิลปะลัทธินีโอ คลาสสิก หมายถึงอะไร
ตอบ การหวนกลับไปนำปรัชญาและหลักสุนทรียภาพในยุคคลาสสิก (กรีก โรมัน) มาสร้างสรรติขึ้นใหม่

2 ความตื่นเต้นจากการขุดค้นเมืองอะไรสมัยโรมันซึ่งผลักดันให้เกิดผลักดันการเกิดศิลปะนีโอ คลาสสิก
ตอบ ปอมเปอี และเฮอร์คูลาเนียม

3 ศิลปินคนกล่าวว่า ศิลปะ คือ ดวงประทีบของเหตุผล ซึ่งต่อมากลายเป็นความเชื่อของศิลปะ
ตอบ ดาวิด (นีโอ คลาสสิก)

4 ศิลปินลัทธินีโอ คลาสสิก มีแนวทางในการสะท้อนผลงานทางศิลปะอย่างไร
ตอบ ถูกต้องตามเหล่าศิลปะ กายภาพ

5 ผลงานของดาวิดชื่อ คำสาบานของพวกเฮอราติไอต้องการสะท้อนแนวคิดอะไรแก่ผู้ชม
ตอบ ความรักชาติ

6 ภาพเขียนชื่อ โรงพยาบาลโรคระบาดที่เจฟฟา เป็นผลงานของใคร
ตอบ

7 ในขณะที่ศิลปะลัทธินีโอ คลาสสิก คำนึงถึงความถูกต้องตามหลักการและเกณฑ์ทางศิลปะแต่ลัทธิโรแมนติกกลับยึดถือและให้ความสำคัญต่อสิ่งใด
ตอบ อารมณ์และความรู้สึกของผู้ชม

8 ภาพ แพเมดูซา ” (The Raft of the “ Medusa ”) เป็นผลงานของใคร
ตอบ เจอซิโคลต์

9 ผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับเดอลาครัวเป็นอย่างยิ่งชื่อว่าอะไร
ตอบ เสรีภาพนำหน้าประชาชน

10 แนวทางการสร้างสรรค์ผลงานในศิลปะลัทธิสัจนิยมเน้นเรื่องใดเป็นสำคัญ
ตอบ เกี่ยวกับความเป็นอยู่ของมนุษย์

11 ศิลปะลัทธิอิมเพรสชันนิสม์ปรากฏอย่างเป็นทางการเมื่อใดและส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง
ตอบ 1874 เป็นจุดเริ่มต้นของศิลปะสมัยใหม่

12 ศิลปินที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นำของกลุ่มอิมเพรสชันนิสม์ คือ ใคร
ตอบ มาเนต์

13 อิมเพรสชันนิสม์เป็นจุดเริ่มต้นของศิลปะสมัยใหม่ เพราะเปลี่ยนจากเทคนิคสร้างงานด้วยการเกลี่ยสีเรียบมาเป็นเทคนิคอย่างไร
ตอบ ป้ายสี

14 ศิลปินลัทธิอิมเพรสชันนิสม์ที่มีความสามารถสูงในการเขียนภาพคนและแง่มุมทัศนียวิทยาของสถาปัตยกรรมและทิวทัศน์ โดยใช้สีได้อย่างสดใส มีบรรยากาศใสสะอาดราวกับสิ่งต่างๆเป็นของเหลว คือ ใคร
ตอบ เรอนัวร์

15 ศิลปะลัทธิฌพสท์ อิมเพรสชันนิสม์แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ได้แก่กลุ่มใดบ้าง
ตอบ 1 กลุ่มแสดงออกทางอารมณ์ 2 กลุ่มแสดงโครงสร้างทางศิลปะ

16 ผู้สนับสนุนศิลปินกลุ่มโพสท์อิมเพรสชันนิสม์คือใคร
ตอบ โรเจอร์ ฟลาย + คลิปเบล

17 ความเชื่อในการสร้างสรรค์งานของพอล เซซานน์ (Paul Cezanne, ค.ศ. 1839 – 1906 ) เป็นอย่างไรบ้าง
ตอบ สีเป็นผู้กำหนดความตื้นลึก ใกลใก้ล ยิ่งสีเข้มเท่าภาพก็ยิ่งดีเท่านั้น

18 แวนโก๊ะมีพัฒนาการในการสร้างสรรค์ผลงานของศิลปะอย่างไร
ตอบ เริ่มใช้ แปรงเดิม รอยสีหนาและริ้วรอยแปรง ให้มีการแสดงออกถึงความรุนแรงของอารมณ์อย่างที่สุด

19 ผลงานที่ได้รับการยกย่องว่าเยี่ยมยอดของแวนโก๊ะ มี 3 ภาพ คือ ภาพชื่ออะไรบ้าง
ตอบ คนกินมัน ดอกทานตะวัน ราตรีประดับดาว

20 เมื่อกล่าวว่าถึงจิตรกรสำคัญคนหนึ่งซึ่งได้ชื่อว่าสร้างสรรค์ผลงานแบบไม่มีทฤษฏี ไม่มีการบันทึกถึงความสามารถในด้านบุกเบิกสุนทรียภาพใหม่ๆ โดยผลงานที่เขาสร้างขึ้นนั้นเปรียบเสมือนการ บันทึกสิ่งที่เขาเห็นและเข้าใจโดยปราศจากความคิดเห็น ไม่มีความสงสาร ไม่มีอารมณ์รู้สึกไม่มีการกล่าวหา และไม่มีการส่อเสียดใดๆ ข้อความข้างต้นนี้หมายถึงศิลปินคนใด
ตอบ กุลูส โลเทรค


แบบฝึกหัดบทที่  8
1.       ศิลปะลัทธิโฟวิสม์   มีความเป็นมาอย่างไร
ตอบ  ลัทธิสัตว์ป่า  เป็นคำเปรียบเปรยรูปแบบศิปะเมื่อเปรียบเทียบระหว่างผลงานของศิลปิน

สมัยเรอแนสซองส์ที่งามตามหลักสุนทรียภาพเดิมกับผลงานของกลุ่มศิลปินที่ให้สีสันโฉ่งฉ่ายยิ่งเพิ่มความเป็นปฎิปักษ์กันอย่างเห็นได้ชัด
2.       แนวทางการสร้างสรรค์งานกลุ่มสะพานสะท้อนเร่องราวอะไรบ้าง
ตอบ   ทางศาสนา   ความรัก    กามารมณ์และความตาย
3.  
     แนวทางการสร้างสรรค์งานของกลุ่มม้าสีน้ำเงินเป็นอย่างไรบ้าง
ตอบ    การแสดงอารมณ์แบบรุนแรงที่แฝงความสนุกสนานจากการใช้สี
4.   
   ศิลปินที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำลัทธิเอกเพรสชันนิสม์  คือ  ใคร
ตอบ  เอ็ดวาร์ดมูงค์
5.   
    ศิลปะลัทธิคิวบิสม์  หรือ  Cubism  Art  มีรากฐานมาจากอะไร
ตอบ   อิทธิพลความเจริญทางวิทยาศาสตร์และจากรูปแบบหน้ากากของชนเผ่าพื้นเมืองในแอฟริกา
6.  
     ศิลปะลัทธิคิวบิสม์เชื่อในเรื่องใด
ตอบ   การแสดงออกทางศิลปะ   ต้องกลั่นกรองรูปทรงด้วยการวิเคราะห์และสังเคราะห์รูปทรงให้เหลือเพียงแก่นแท้ที่มั่นคง
7.  
     ภาพ เกอนีแค  (ค.ศ. 1937)  เป็ฯผลงานของศิลปินคนใด
ตอบ   ปาโบลปิคัสโซ
8.  
     ผลงานศิลปะที่ชื่อ บ้านที่เลสตัคในพิพิธภัณฑ์ที่กรุงเบอร์น   เป็นงานของศิลปินคนใด
ตอบ  จอร์จบราค
9.  
     ผู้ที่ได้รับยกย่องว่าเป็นบิดาของศิลปะนามธรรมคือใคร
ตอบ  แคนดินสกี
10.
   จิตรกรลัทธินามธรรมเอ็กเพรสชันนิสม์   ที่มีชื่อเสียงและโด่ดเด่น   ได้รับฉายาว่าเป็นจิตกรแบบ  Action  Painting  คือ  ใคร
ตอบ   แจคสัน   พอลลอค
11.
   ศิลปะลัทธิดาดามีพัฒนาการทางความคิดเริ่มแรกมาอย่างไร
ตอบปัจจัยแห่งความอัปลักษณ์ทางสังคมยุโรปขณะนั้น   เป็นรูปแบบศิลปะที่สับสนไร้กฎเกณฑ์
12
.   การสลายตัวของศิลปะลัทิดาดาเกิดขึ้นได้อย่างไร
ตอบ การเปลี่ยนแปลงสภาวการณ์โลกที่ดีขึ้น   และงานศิลปะแนวลัทธิเซอร์–เรียลิสม์  กำลังได้รับความนิยมใน ค.ศ.  1922


13.   ศิลปะแนวดาดาชื่อ  น้ำพุ  และภาพโมนาลิซามีหนวดเป็นผลงานของใคร

ตอบ  มาร์เซิลดูชัมป์
14.   ศิลปินลัทธิเซอเรียลิสม์ที่ใช้ ทฤษฎีอันฉับพลันของความเข้าใจอันไร้เหตุผล  อันมีพื้นฐานมาจากการตีความหมายเกี่ยวกับปรากฎกรณ์ของจิตอันแปรปรวนคือใคร
ตอบ   ซัลวาดอร์   ดาลี
15.   ความหมายเชิงปรัชญาของเซอร์–เรียลิสม์  คืออะไร
ตอบการปลดปล่อยจิตให้เป็นอิสระอย่างสมบูรณ์   หากประสงค์จะมุ่งผสานความคิด   เรื่องความเป็นจริงกับความไม่เป็นจริง  เหตุผลกับความไม่มีเหตุผลการไตร่ตรองกับแรงกระตุ้น   ความรู้กับความไม่รู้ ที่เป็นอันตราย   ความมีประโยชน์กับคใมไม่มีประโยชน์  ฯลฯ


















วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2554

ประเทศสาธารณรัฐฟินแลนด์(Republic of Finland)




ประเทศฟินแลนด์ (Finland) มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐฟินแลนด์ เป็นประเทศในกลุ่มนอร์ดิก ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปยุโรป เขตแดนด้านตะวันตกเฉียงใต้จรดทะเลบอลติก ทางด้านใต้จรดอ่าวฟินแลนด์ ทางตะวันตกจรดอ่าวบอทเนีย ประเทศฟินแลนด์มีชายแดนติดกับประเทศสวีเดน นอร์เวย์ และรัสเซีย สำหรับหมู่เกาะโอลันด์ที่อยู่ห่างจากชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้นั้น อยู่ภายใต้การปกครองของฟินแลนด์ แต่เป็นเขตปกครองตนเอง เคยถูกรัสเซียยึดครองและเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของ
รัสเซีย

ฟินแลนด์มี ประชากรเพียง ล้านคน ในพื้นที่ 338,145 ตารางกิโลเมตร นับว่ามีประชากรที่เบาบาง แต่มีดัชนีการพัฒนามนุษย์ตามสถิติของสหประชาชาติ พ.ศ. 2549 อยู่ในลำดับที่ 11 ฟินแลนด์เคยเป็นส่วนหนึ่งของสวีเดนหลายศตวรรษ หลังจากนั้นก็อยู่ภายใต้จักรวรรดิรัสเซียจนถึงปี พ.ศ. 2460 ปัจจุบันฟินแลนด์เป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตย
ภาษาฟินแลนด์เป็นหนึ่งใน ภาษาราชการไม่กี่ภาษาของสหภาพยุโรป ที่ไม่ได้มีต้นกำเนิดเป็นกลุ่มภาษาอินโด-ยูโรเปียน ร่วมกับภาษาเอสโตเนีย ภาษาฮังการี และภาษามอลตา



ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมพื้นเมือง

         มีการค้นพบหลักฐานที่บ่งชี้ว่ามนุษย์เข้ามาตั้งถิ่นฐานในประเทศฟินแลนด์ เมื่อประมาณหนึ่งหมื่นปีช่วงปลายยุคน้ำแข็ง   ช่วงก่อนคริสตกาลบรรพบุรุษของชาวฟินแลนด์เคยแผ่อาณาเขตไปถึงดินแดนทางตอนเหนือของประเทศรัสสเซียครึ่งหนึ่ง ก่อนจะขยายอาณาเขตมาทางตอนเหนือของทะเลบอลติก ช่วงปลายของยุคไวกิ้ง พ่อค้าชาวสวีเดนและบรรดาหัวหน้าชนเผ่าต่างๆได้เข้ามาทำการค้าขายในแถบทะเลบอลติก  หลังจากนั้นอีกหลายร้อยปีที่บรรพบุรุษของชาวฟินด์แลนด์ต้องเผชิญกับสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่มั่นคง เนื่องการป้องกันตนเองจากการครอบครองของอาณาจักรสวีเดนที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปแตสแตนท์ และจักรวรรดิรัสเซียที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายออโธดอกซ์  ราวศตวรรษที่สิบสองจนถึงปีคริสต์ศักราช1809(พุทธศักราช2352ประเทศฟินแลนด์ต้องตกอยู่ภายใต้การปกครองของประเทศสวีเดน   ยาวนานถึงเจ็ดร้อยปี ประเทศฟินแลนด์ต้องเผชิญกับภาวะการขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรง ในช่วงปีคริสต์ศักราช 1696ถึง1697หนึ่งในสามของประชากรต้องเสียชีวิตลงเพราะความอดอยาก   ช่วงทศวรรษปี1700  ประเทศก็ต้องเผชิญกับการทำสงครามกับรัสเซีย ประมาณปีคริสต์ศักราช1809(พุทธศักราช 2352) ก็ตกเป็นส่วนหนึ่งของประเทศรัสเซีย   พอถึงช่วงกลางของศตวรรษที่19 กระแสความรู้สึกรักชาติแผ่กระจายไปทั่วท่ามกลางประชาชนที่ต้องการเป็นอิสระจากการปกครองของประเทศรัสเซีย  ความต้องการมีเอกราชเป็นของตนเองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  เนื่องจากการเสื่อมอำนาจของพระเจ้าซาร์และประเทศรัสเสียมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบคอมมิวนิสต์ในปีคริสต์ศักราช1917   สภาสูงมีมติให้ประเทศฟินแลนด์ประกาศเอกราชเมื่อวันที่ ธันวาคม 1917(ปีพุทธศักราช2450) แต่ความรุนแรงในประเทศกลับประทุขึ้นเมื่อเมื่อประเทศรัสเซีย
เมืองหลวง

เมืองเฮลซิงกิ (Helsinki) ถูกสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1550 โดยกษัตริย์กุสตาฟ วาชา แห่งสวีเดน เมื่ออดีตเฮลซิงกิไม่ใช่เมืองหลวงของฟินแลนด์ (เมืองหลวงเก่าคือตรูกู เมื่อครั้งตกเป็นเมืองขึ้นของสวีเดน ปีคศ.1809 -1812) เฮลซิงกิมาเป็นเมืองหลวงของฟินแลนด์ตั้งแต่ปีค.ศ. 1812 ในสมัยที่ตกอยู่ภายใต้การปกครองของรัสเซีย ทำให้เฮลซิงกิเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างตะวันออกและตะวันตก ทำให้ในเฮลซิงกินั้นเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่งดงามและสถาปัตยกรรม ร่วมสมัย อีกทั้งทำเลที่ตั้งยังอยู่ท่ามกลางหมู่เกาะมากมายในทะเลบอลติก ทำให้ เฮลซิงกิได้รับฉายาว่าเป็น “ธิดาแห่งทะเลบอลติก” และในปีค.ศ. 2000 ที่ผ่านมา เฮลซิงกิยังได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมของยุโรปด้วยคำขวัญที่ว่า “Helsinki The high tech city where culture meets nature”



สถาปัตยกรรม


หลังจากเฮลซิงกิถูกตั้งเป็นเมืองหลวง เฮลซิงกิก็ถูกแปรสภาพจากเมืองเล็กๆที่มีประชากรเพียง 4,000 คนเป็นศูนย์กลางการปกครองของฟินแลนด์ สถาปัตยกรรมที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ได้รับอิทธิพลจากจักรวรรดิรัสเซีย โดยเฉพาะรูปแบบนีโอคลาสสิกตามแบบเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก คาร์ล ลุดวิก เองเกล ชาวเยอรมัน ทำหน้าที่เป็นสถาปนิกใหญ่ในโครงการสร้างเมืองใหม่นี้ ศูนย์กลางของแผนอยู่ที่จัตุรัสวุฒิสภา (Senaatintori; Senatstorgot) ซึ่งมีขนาดใหญ่รองรับคนได้หลายหมื่นคน สิ่งก่อสร้างสำคัญบริเวณจัตุรัสนี้คือมหาวิหาร (ในอดีตเรียกโบสถ์นิโคลัส) ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศเหนือของจัตุรัส ทางทิศตะวันออกและตะวันตกเป็นทำเนียบรัฐบาลและอาคารหลักของมหาวิทยาลัยตามลำดับ อาคารสองหลังนี้มีขนาดใกล้เคียงกัน ทำเนียบรัฐบาลมีเสาหินแบบคอรินเธียน ในขณะที่อาคารมหาวิทยาลัยเป็นแบบไอออนิก สิ่งก่อสร้างทั้งสามนี้เป็นผลงานของเองเกล เช่นเดียวกับสิ่งก่อสร้างอีกหลายแห่ง อาคารที่มีชื่อเสียงของเองเกลอีกแห่งหนึ่งคือห้องสมุดมหาวิทยาลัย ซึ่งได้รับการยกย่องในเรื่องความงดงาม อิทธิพลของรัสเซียอีกอย่างหนึ่งคือโบสถ์ออร์โธดอกซ์ ซึ่งแห่งที่สำคัญของเฮลซิงกิคือมหาวิหารอุสเปนสกี ก่อสร้างในช่วงปีพ.ศ. 2405-2411

เฮลซิงกิยังมีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมแบบอาร์ตนูโว (Jugenstil) โดยมีสถาปนิกคนสำคัญคือเอเลียล ซาริเนน ในช่วงแรกซาริเนนร่วมงานกับสถาปนิกอีกสองคนในบริษัท Gesellius, Lindgren & Saarinen ผลงานที่สำคัญในเฮลซิงกิคือพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ออกแบบในปีพ.ศ. 2445 ผลงานสำคัญของซาริเนนอีกอย่างหนึ่งคือสถานีรถไฟกลางเฮลซิงกิ
อาคารรัฐสภา (Eduskuntatalo) เป็นผลงานนีโอคลาสสิกชิ้นสำคัญของฟินแลนด์ยุคหลังประกาศเอกราช ออกแบบโดยโยฮัน ซิกฟริด ซิเรน ในปีพ.ศ. 2467 และสร้างเสร็จในปีพ.ศ. 2474 ภายหน้าอาคารเป็นเสาหินแบบคอรินเธียน 14 ต้น

สถาปัตยกรรมแบบประโยชน์นิยม (อังกฤษ: functionalism) ได้รับความนิยมในฟินแลนด์ยุคใหม่ อัลวาร์ อาลโต เป็นสถาปนิกชาวฟินแลนด์ที่มีชื่อเสียงในด้านนี้ โดยมีสิ่งก่อสร้างในเฮลซิงกิคือหอฟินแลนเดีย

ที่ตั้ง
ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทวีปยุโรป
ทิศเหนือติดนอร์เวย์
ทิศตะวันตกติดสวีเดน
ทิศตะวันออกติดรัสเซีย
ทิศใต้ ติดกับเอสโตเนีย
โดยมีทะเลบอลติกกั้นอยู่

พื้นที่
338,145 ตารางกิโลเมตร


ภูมิประเทศ

ฟินแลนด์ เป็นประเทศที่มีทะเลสาบและเกาะเป็นจำนวนมาก โดยมีทะเลสาบถึง 187,888 แห่ง (ที่มีเนื้อที่มากกว่า 500 ตารางเมตร) และมีเกาะถึง 179,584 เกาะ โดยทะเลสาบไซมา ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในฟินแลนด์ เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับห้าของยุโรป ภูมิประเทศทั่วไปของฟินแลนด์มีลักษณะเป็นที่ราบ ไม่มีภูเขามากนัก จุดสูงสุดของประเทศอยู่ที่ภูเขาฮัลติ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเขตแลปแลนด์ โดยมีความสูง 1,328 เมตร นอกจากทะเลสาบแล้ว พื้นที่ส่วนใหญ่ของฟินแลนด์ปกคลุมด้วยป่าสน และมีพื้นที่เพาะปลูกไม่มากนัก ฟินแลนด์มีเกาะที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ บริเวณหมู่เกาะโอลันด์ และตลอดแนวชายฝั่งทางใต้ในอ่าวฟินแลนด์ ฟินแลนด์เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศของโลกที่ยังคงมีขนาดใหญ่ขึ้น จากการยกตัวของแผ่นดินที่มีผลมาตั้งแต่ยุคน้ำแข็งครั้งสุดท้าย


ภูมิอากาศ

ภูมิ อากาศทางตอนใต้ของฟินแลนด์เป็นแบบเขตอบอุ่น ทางตอนเหนือ โดยเฉพาะในเขตจังหวัดแลปแลนด์ มีภูมิอากาศแบบป่าสนหรือกึ่งอาร์กติก ซึ่งโดยทั่วไปจะหนาวเย็น มีฤดูหนาวที่รุนแรงในบางครั้ง และมีฤดูร้อนที่ค่อนข้างอบอุ่นโดยเปรียบเทียบ ฟินแลนด์ได้รับอิทธิพลจากกระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีมเพราะอยู่ใกล้มหาสมุทร แอตแลนติก ทำให้มีภูมิอากาศที่ค่อนข้างอบอุ่นเมื่อเปรียบเทียบกับละติจูดที่อยู่สูงมาก
เนื้อที่ ราวหนึ่งในสี่ของประเทศฟินแลนด์ตั้งอยู่เหนืออาร์กติกเซอร์เคิล ทำให้เกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนได้ ในจุดที่เหนือที่สุดของฟินแลนด์ พระอาทิตย์ไม่ตกดินเป็นเวลา 73 วันในช่วงฤดูร้อน และไม่ขึ้นเลยเป็นเวลา 51 วันในช่วงฤดูหนาว



ประชากร
5.29 ล้านคน

เชื้อชาติ
Finnish 93.4% Swedish 5.7% Russian 0.4%

ภาษา


ใช้ภาษาราชการ 2 ภาษา คือ ภาษา Finnish และ ภาษา Swedish


ศาสนา
ส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ (นิกาย Lutheran 84.2% นิกาย Orthodox 1%)

สกุลเงิน
ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2545 ฟินแลนด์ได้เปลี่ยนจากการใช้เงินสกุลฟินมาร์ก หรือ Markka -FIM มาเป็นเงินยูโร(euro)เช็คอัตราแลกเปลี่ยนทั่วโลก


ระบบไฟฟ้า: 
ที่ประเทศฟินแลนด์มีระบบไฟฟ้าเป็นแบบ 230 โวลต์ ดังนั้น นักท่องเที่ยวที่จะนำเครื่องใช้ไฟฟ้าไปด้วย จะต้องเตรียมเครื่องแปลงไฟฟ้า (Adapter) ไปด้วย

ระบบโทรศัพท์: 
รหัสโทรศัพท์ของประเทศฟินแลนด์คือ +358 ท่านสามารถโทรกลับเมืองไทยได้โดยการใช้บัตรโทรศัพท์ หรือ ใช้โทรศัพท์ของทางที่พักในฟินแลนด์ของท่านในการโทรออก ก็ได้เช่นกัน

วันชาติ
6 ธันวาคม

ระบบการเมือง

ระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา (Constitutional Republic)


สหภาพยุโรป

ฟินแลนด์ ได้เข้าเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (EU) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2538 และรับหน้าที่เป็นประธานสหภาพยุโรปครั้งแรกระหว่างเดือนกรกฎาคม - ธันวาคม 2542 และครั้งที่ 2 ระหว่างเดือนกรกฎาคม - ธันวาคม 2549 โดยในช่วงเป็นประธานสหภาพยุโรป ฟินแลนด์ได้เป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเชีย-ยุโรป ระดับผู้นำครั้งที่ 6 (ASEM 6) ที่กรุงเฮลซิงกิ เมื่อวันที่ 10-11 กันยายน 2549




นโยบายต่างประเทศของฟินแลนด์

นับ ตั้งแต่ฟินแลนด์ได้รับเอกราชจนถึงก่อนสิ้นยุคสงครามเย็น การดำเนินโยบายต่างประเทศของฟินแลนด์จะดำเนินการอยู่บนพื้นฐานของเหตุผลทาง ด้านที่ตั้งและภูมิรัฐศาสตร์(geopolitics) ของประเทศเป็นสำคัญ เนื่องจากฟินแลนด์ตั้งอยู่ระหว่างกลุ่มประเทศยุโรปตะวันตกและรัสเซีย ซึ่งฟินแลนด์มีพรมแดนติดต่อกับรัสเซียเป็ระยะทางยางถึง 1,270 กิโลเมตร (800 ไมล์)สภาวะทางภูมิศาสตร์ดังกล่าวมีผลให้ฟินแลนด์จำเป็นต้องดำเนินนโยบายต่าง ประเทศเป็นกลางอย่างเคร่งครัด (neutrality) เนื่องจาก ฟินแลนด์ในฐานะที่เป็นประเทศที่มีขนาดเล็กและมีขีดความสามารถป้องกันตนเอง จำกัด ฟินแลนด์จึงไม่ต้องการเป็นยุทธภูมิของการสู้รบระหว่างฝ่ายตะวันตกกับฝ่าย ตะวันออก และไม่ต้องการให้มีการตัดสินปัญหาต่าง ๆ ของโลกโดยวิธีทางการทหารและไม่ประสงค์นำประเทศเข้าไปพัวพันกับความขัดแย้ง ระหว่างประเทศ ดังนั้น นโยบายความเป็นกลางจึงเป็นแนวทางในการปกป้องเอกราชของฟินแลนด์ในช่วงเวลาดัง กล่าว บทบาทของฟินแลนด์ในเวทีการเมืองระหว่างประเทศเริ่มเด่นชัดขึ้นภายหลังการ สิ้นสุดยุคสงครามเย็น โดยนโยบายความเป็นกลางของฟินแลนด์ได้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เป็นการปรับนโยบายให้เข้ากับกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลง คือ ส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และระบบเศรษฐกิจเสรี ฟินแลนด์ได้พยายามเสริมสร้างบทบาทของตนเองให้มีความสำคัญมากขึ้นในเวที ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะภูมิภาคยุโรป ซึ่งฟินแลนด์ต้องการมีส่วนร่วมในการกำหนดระเบียบความมั่นคงในรูปแบบใหม่ของ ยุโรป ที่พยายามรวมตัวกันทั้งทางด้านเศรษฐกิจการเมือง และการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางสังคม เชื้อชาติ และภัยคุกคามต่าง ๆ ร่วมกัน โดยไม่ใช้ความรุนแรงซึ่งเป็นนโยบายที่สอดคล้องกับผลประโยชน์ระยะยาวในด้าน ความมั่นคงของฟินแลนด์เองที่จะทำให้ภูมิภาคยุโรปไม่กลับคืนไปสู่สภาวะแห่ง การแบ่งแยกออกเป็นเขตผลประโยชน์ และเขตอำนาจต่าง ๆ ดังเช่นที่อดีตผ่านมา


อาหารท้องถิ่น:


เมื่อไปฟินแลนด์ จะต้องลองไปชิมอาหารพื้นเมืองขนานแท้ของประเทศเขากันให้ได้ ได้แก่ เนื้อกวางเรนเดียร์ปรุงอาหารในแบบต่างๆ หรือจะเป็น พายคาเรเลีย (Karjalanpiirakka) ก็แสนจะอร่อยค่ะ ซึ่งมีต้นกำเนิดจากเขตคาเรเลียทางตะวันออกของฟินแลนด์ ทั้งหมดนี้ ท่านจะหาทานได้จากร้านอาหารตามเมืองท่องเที่ยวต่างๆ หรือภัตตาคารของโรงแรม ใน ฟินแลนด์ ที่ท่านเข้าพักได้ 


แหล่งช้อปปิ้ง:



สถานที่ช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงของเมืองเฮลซิงกิ คือ Rautarientori Road เป็นที่ที่นักช้อปตัวจริงไม่ควรพลาด เพราะมีทั้งห้างสรรพสินค้าและร้านค้าต่างๆมากมาย ซึ่งห้างที่ใหญ่ที่สุดของถนนสายนี้ชื่อว่า Stockmann นอกจากนั้น อย่าลืมแวะซื้อของฝากจากชาวแลปป์ อาทิ หนังกวางเรนเดียร์ และผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากกวาง ตลอดจนสินค้าพื้นเมืองของฟินแลนด์กันด้วย


สถานที่ท่องเที่ยว




น้ำพุธิดาแห่งทะเลบอลติก

  
         “น้ำพุธิดาแห่งทะเลบอลติก” (Havis Amanda) ถือว่าน้ำพุแห่งนี้เป็นสัญลักษ์ของเมืองเฮลซิงกิ และเป็นที่มาของฉายานาม ธิดาแห่งทะเลบอลติกด้วย ซึ่งน้ำพุนี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1908 และได้รับการออกแบบโดย นายวิลเลย์วาเกน โดยได้ทำการปั้นรูปปั้นสาวงามว่าให้นางเป็นตัวแทนของเฮลซิงกิ ส่วนบอลติกก็คือคาบสมุทรที่เมืองนี้ตั้งอยู่นั่นเอง
    
       นอกจากน้ำพุแห่งนี้จะเป็นที่นิยมของการมาถ่ายรูปคู่ด้วยแล้ว ก็ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับน้ำพุแห่งนี้ด้วยว่า สาวงามผู้นี้ยังเป็นตัวแทนเสี่ยงทายสำหรับนักเรียนและนักศึกษา ที่ว่ากันว่าว่าหากใครสามารถโยนหมวกขึ้นไปสวมบนศรีษะของสาวงามได้ ก็จะมีอนาคตทางหน้าที่การงานที่เจริญก้าวหน้า







 เซเนท สแควร์ (Senate Squre) 

จตุรัสกลางเมืองที่ใช้จัดกิจกรรมใหญ่ ๆ กลางจตุรัสมีอนุสาวรีย์พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ ที่ 2 ประดิษฐานอยู่ ถัดไปด้านบนเป็น โบสถ์เฮลซิงกิ เด่นตระหง่านตามแบบฉบับสถาปัตยกรรมรัสเซีย เนื่องจากถูกปกครองด้วยรัสเซียมานานถึง 100 ปี เดินทะลุตรงจากหน้าจัตุรัสลงมาไม่กี่อึดใจก็จะถึง มาร์เก็ต สแควร์






โบสถ์เทมเปลิโอคิโอ หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม โบสถ์หิน (Rock Church

แต่เดิมเป็นภูหินแกรนิตใหญ่ที่ตั้งเกะกะอยู่กลางเมือง เกือบจะถูกระเบิดทิ้งอยู่รอมร่อ โชคดีที่มีการระดมความเห็นเสนอให้ก่อสร้างเป็นโบสถ์ จนกลายเป็นสถานที่ขึ้นชื่อมาจนทุกวันนี้ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่มักจะเดินทางมาประกอบพิธีสมรสกันที่นี่ อาจจะเป็นเพราะลักษณะโบสถ์แห่งนี้เก๋ไก๋ด้วยดีไซน์ ผนังเป็นหินแกรนิต ด้านบนระบายโปร่งให้แสงเข้า หลังคาประดับด้วยลวดทองแดงหนา 1 นิ้ว นำมาขดเป็นวงกลมใหญ่ดูแปลกตา แต่ชวนให้หวาดเสียวไม่ได้สำหรับพวกที่ชอบสาบานให้ฟ้าผ่า



โรงแรมที่พัก


Holiday Inn Helsinki




Hotel Fabian





ที่มา

http://www.meesara.com/?p=696
http://mermaid.panphuket.com/content/สถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเฮลซิงกิ